พบสหธรรมิกเก่า
หลังจาก หลวงปู่ชื่น ธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ มากมาย จนกระทั่งท่านเดินทางไปจำพรรษาอยู่ที่วัดนาราก อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ท่านอยู่ได้ 5 พรรษาจึงได้เดินธุดงค์ต่อเรื่อยไปจวบจนอายุท่านมากขึ้น กำลังวังชาถดถอย ท่านจึงอยู่กับที่ระยะหนึ่ง ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2524 หลวงปู่ชื่นได้รับนิมนต์เดินทางไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดแห่งหนึ่งใน เขตจังหวัดบุรีรัมย์ งานนั้น หลวงปู่นิล อนุตโร เจ้าอาวาสวัดตาอีรูปปัจจุบันซึ่งเคยเป็น “สหธรรมิก” (เพื่อน) เก่าก่อนกันมาก็ได้รับนิมนต์จากทางเจ้าภาพให้เป็นพระคู่สวดเช่นกัน
หลังจากพระทุกองค์เสด็จจากกิจนิมนต์แล้ว ทางเจ้าภาพได้จัดถวายอาหารเพลให้ฉัน หลวงปู่นิล กับ หลวงปู่ชื่น นั่งฉันในวงเดียวกัน หลวงปู่นิลหันมองพระที่นั่งอยู่ข้างตัว ท่านคิดในใจว่าคล้ายเคยเห็นกันมาก่อน แต่ท่านยังจำไม่ได้ว่าเคยเห็นกันที่ไหน เพราะความที่จากกันมานานหลายสิบปีทำให้ท่านทั้งสองแทบจำกันไม่ได้ หลวงปู่นิลได้แต่คิดในใจว่าพระองค์นี้ทำไมช่างเหมือน หลวงปู่ชื่น เสียเหลือเกิน จนอดใจไม่ไหวจึงเอ่ยถามไปว่า
“หลวงพ่อท่านอยู่วัดไหน ชื่ออะไร”
หลวงปู่ชื่น ตอบกลับไปทันที
“อาตมาชื่อชื่น เป็นพระธุดงค์ยังไม่มีวัดจำพรรษา”
หลวงปู่นิล นั่งคิดตั้งนานที่แท้ก็ใช่หลวงปู่ชื่นจริง ๆ ด้วย เมื่อท่านทั้งสองได้นั่งสนทนากันแล้วหลวงปู่นิลจึงได้ออกปากนิมนต์หลวงปู่ชื่นให้มาจำพรรษาอยู่ด้วยกันที่วัดตาอี ประกอบกับช่วงนั้น หลวงปู่ชื่น มีอายุมากแล้วและชาวบ้านตาอีก็ได้นิมนต์ท่านไว้ไม่ให้เดินธุดงค์อีก นับตั้งแต่นั้นมา หลวงปู่ชื่น จึงได้อยู่จำพรรษาที่วัดตาอีเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
เพชรเริ่มทอแสง
หลังจาก หลวงปู่ชื่น มาอยู่วัดตาอีแล้วท่านได้เก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในกุฏิหลังเล็ก ๆ เหมือนพระหลวงตาแก่ ๆ ธรรมดา แทบไม่มีใครรู้เลยว่าท่านเป็นพระที่มี “พลังจิต” และมีอาคมเข้มขลังมาก จนกระทั่งกลางปี พ.ศ. 2542 หลวงปู่ชื่นได้สร้างวัตถุมงคลออกมา 2-3 รุ่น ผลปรากฏว่าผู้ที่นำวัตถุมงคลของท่านไปบูชาต่างมีประสบการณ์ต่าง ๆ นานามากมาย จากปากต่อปากทำให้วัตถุมงคลที่ท่านบรรจุพลังจิตเวทวิทยาคมที่มี “พลังมหัศจรรย์” ความวิเศษขลัง ยับยั้งภัยพาล อาถรรพณ์จัญไร ขจัดสรรพทุกข์ สรรพโรค สรรพภัยที่มีอานุภาพ ทั้งเมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ ค้าขายดีเยี่ยม คุ้มครองป้องกัน ทำให้ชื่อเสียงหลวงปู่ชื่นดังขึ้นมาเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปมากขึ้นเป็นลำดับ จากปากผู้ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของท่านไปบูชาส่วนใหญ่ยอมรับว่าวัตถุมงคลของท่านดีเยี่ยมจริง ๆ ใช้แล้วได้ผลดีเกินคาด ส่วนสาเหตุที่ท่านยอมเปิดตัวและจัดสร้างวัตถุมงคลออกมาเป็นทางการเนื่องจาก ท่านกำลังก่อสร้างอุโบสถซึ่งขาดปัจจัยอยู่อีกมาก อีกประการหนึ่งหลวงปู่เคยบอกไว้ว่า
“ถึงเวลาที่ครูบาอาจารย์ท่านให้เปิดตัวแล้ว เพื่อนำความรู้เวทวิทยาคมที่ได้ร่ำเรียนมาสงเคราะห์พุทธศาสนิกชน และจัดสร้างถาวรวัตถุเพื่อการพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป”
หินลงสระกลายเป็นงูยักษ์
เมื่อครั้งที่ หลวงปู่ชื่น มาอยู่ที่วัดตาอีใหม่ ๆ นั้น ท่านได้เร่งทำความเพียรปฏิบัติธรรมจนพลังจิตแก่กล้า ด้วยท่านเป็นพระที่รักสันโดษชอบเก็บตัวเงียบ ๆ อยู่แต่ภายในกุฏิ ชาวบ้านจึงคิดว่าท่านเป็นหลวงตาแก่ ๆ ไม่มีอะไร เป็นพระธรรมดาไม่มีวิชาอาคมอันใด
ต่อมาทางวัดได้ขุดสระใหม่ ทางเจ้าอาวาสจึงประกาศบอกชาวบ้านว่า “ห้ามลงอาบน้ำในสระ” เพราะสระน้ำแห่งนี้พระเณรต้องใช้ดื่มกิน แต่ชาวบ้านขาดความเกรงใจท่าน ตกเย็นทั้งหนุ่มสาวพากันลงว่ายน้ำเล่นในสระอย่างสนุกสนาน บ้างก็นำผ้ามาซักทำให้ฟองแฟ๊บที่ซักลอยเต็มคุ้งสระ บอกแล้วก็เฉย เตือนแล้วก็ไม่หยุด
หลวงปู่ชื่น จึงใช้ไม้ตายเพื่อให้รู้จักที่ต่ำที่สูง และที่ควรมิควรกันบ้าง ท่านจึงนำก้อนหินมาสองก้อน แล้วเสกด้วยคาถาอาคมจากนั้นท่านโยนลงไปในสระน้ำ
“สามวันต่อมาพวกที่ชอบลงเล่นน้ำในสระภายในวัดต่างก็ตกใจแตกตื่นขึ้นตลิ่งกันแทบไม่ทัน เพราะเห็นพญางูยักษ์สองตัวว่ายน้ำไปมาในสระให้เห็นกับตากันจะจะ ชาวบ้านตาอีเห็นกันทั้งหมู่บ้าน”
เรื่องนี้เป็นที่เลื่องลือกันมากในอำเภอบ้านกรวด ถ้าหากใครมีโอกาสได้ไปที่วัดตาอีลองสอบถามชาวบ้านดูก็ได้ และจากวันนั้นเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงวันนี้ก็ไม่มีใครกล้าลงไปเล่นน้ำในสระที่วัดตาอีกันอีกเลย...
ดวงตราอาถรรพณ์ชัยมหานาถ
เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้หลวงปู่ชื่นท่านได้ทำผง " ราชวงศ์วรมันสรรพสิทธิ " ซึ่งเมื่อนำไปให้ผู้รู้หลาย ๆ ท่านสัมผัสดู หลายท่านบอกว่า มีพลังงาน คล้ายผงโสฬสมหาพรหม มีอยู่รายหนึ่งได้เดินทางมาหาผม เพื่อขอผงราชวงศ์วรมันสรรพสิทธิไปผสมสร้างพระถวาย ครูบาอาจารย์ ได้โทรศัพท์ มารายงานว่า เมื่อนำผงไปให้ครูบาอาจารย์ดู ท่านถึงกับยกมือพนมท่วมหัว ท่านบอกว่า ผงนี้ดีมาก " มีฤทธิ์ตบะเดช อย่างสูงส่ง แรงกล้า " ผม เคยนำไปให้พระที่มีอภิญญาสูง ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ครอบครูให้ผม คือ หลวงปู่อิง โชติโญ ท่านก็ยกมือพนมท่วมหัวเช่นกัน ท่านบอกว่า " ดีผง พระอาจารย์ " ใครทำ? ซึ่งตอนนั้นผมไม่ทราบว่า ผงพระอาจารย์ที่หลวงปู่อิง ท่านพูด ถึงคืออะไร จนเวลาผ่านไปหลายปี ผมจึงรู้ว่าชาวกัมพูชา เขามีความเชื่อว่า มีพระทีทรงอภิญญาสูงที่ทรงเจริญอิทธิบาท 4 เป็นเหตุให้ดำรงขันธ์อยู่ได้ตลอดกัลป์มีอยู่ 3 องศ์ คือ หลวงปู่นิรนาม, หลวงปู่ดี และ หลวงปู่สรวง พระทั้ง 3 องศ์จะสลับกันทำหน้าที่ดูแล ตำราวิชาการต่าง ๆ ตลอดจนทรัพย์สมบัติ เพื่อรอคอยพระอาจารย์เสด็จมาอุบัติตรัสรู เป็นองศ์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อถึงเวลานั้นพระทั้ง 3 องศ์ จะนำตำราและทรัพย์สมบัติเหล่านี้ นำขึ้นถวายพระองศ์ท่าน ซึ่งพระอาจารย์ที่หลวงปู่ทั้ง 3 องศ์รอคอย การกลับมาเพื่อทรงอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ก็คือพระองศ์เจ้าศรีชัยวรมันมหาราชนั่นเองนั่นก็หมาย ความว่าพระคาถาจักรพรรดิก็เป็น 1 อยู่ในตำราที่จะนำถวายแก่พระอาจารย์ในภายภาคหน้า
นับเป็นบุญของผู้บูชาวัตถุมงคลรุ่นชัยมหานาถทุกคน ที่มีโอกาสครอบครองวัตถุชิ้นนี้ หลวงปู่ดี พระ 1 ใน3 พระที่ปฏิบัติภารกิจนี้ ยังเมตตา บอกว่า ต่อไปในอนาคต พระอาจารย์จะแสดงธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์จะหลุดพ้นจากวัฏฏทุกข์เข้าถึงพระนิพพานจำนวนมาก สำหรับ ผงราชวงศ์ชัยวรมันสรรพสิทธินี้ หลวงปู่ ท่านใช้หินศิลาอาถรรพณ์ที่ขุดได้จากปราสาทบายน ที่ลงอาถรรพ์ราชาเวทไว้ในสมัยพระเจ้าชัยวรมัน มหาราช นำมาบดเป็นหัว เชื้อ และยังมีดินใจกลางปราสาททุกปราสาท และวัตถุอาถรรพ์ต่าง ๆ อีกมากที่หลวงปู่เดินทางไปนำมาสร้างวัตถุมงคล ด้วยตัวเอง เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นยัง ได้ผงต่างจาก หลวงปู่ดี และผงจากผู้มีจิตศรัทธาได้ส่งมาร่วมอนุโมทนา คุณวรพัฒน์ มอบผงนะปัดตลอด หลวงปู่โต๊ะ/ผงธัมมวิกโก เจ้าคุณนรรัตน์/ผงขมิ้นหิน/ คุณนารายณ์/มอบผงกะลามหาอุด/ผงปูนพระพุทธรูปโบราณ/ คุณวรวิทย์มอบผงหลวงพ่อกวย และพระปรกโพธิ์ 9 ใบที่ชำรุดแตกหัก 1 ถุงใหญ่/ผงมหาจักรพรรดิ หลวงปู่ดู่ /คุณจินดามอบผงสมเด็จวัดระฆัง/ ผงพระแตกหัก 1 ถุงใหญ่/ผงขุยนาคราช/ผงจินดามณี/ผงวิเศษต่างๆอีกมากจากหลายท่านที่ร่วมอนุโมทนา หลวงปู่ยังฝากบอกแก่ผู้ ศรัทธาบูชาวัตถุมงคลว่าคิดเป็นการซื้อขาย ให้คิดว่าเป็นที่ระลึกในการร่วมทำบุญ ถ้าทำได้อย่างนี้จะได้กุศลบุญมาก กว่า จะบูชาวัตถุมงคลถูกหรือแพงได้บุญเท่ากันหมด สำคัญที่จิตศรัทธามั่นคงจริงใจต่างหาก ในพิธีราชาภิเษกวัตถุมงคล รุ่นชัยมหานาถนี้ครูบาอาจารย์ที่ร่วมอธิฐานฤทธิ์ได้เล่านิมิตที่เห็นตรงกันหลายท่าน วัตถุมงคลรุ่น ชัยมหานาถสำเร็จ ด้วยพระมหาบรมเดชา นุภาพ มหิธฤทธิ์ อันยิ่งใหญ่ไพศาลของพระเจ้าศรีชัยวรมันมหาราช ใครมีให้มั่นบูชาอย่าคิดว่าเป็นของใหม่แม้นแต่ ครูบาอาจารย์ที่มา ร่วม พิธีถึงกับการันตีถึงความแรงความขลังในพิธีนี้และหลังจากผู้นำวัตถุมงคลชุดนี้ไปบูชาก็ประจักษ์แจ้งถึงอิทธิคุณ มีโชคลาภ บางบ้านฮวงจุ้ยไม่ดี นำดวงตราอาถรรพณ์ติดหน้าบ้านกิจการงานดีขึ้นทันตาเห็น บางรายก็ป่วยอาการสาหัสอธิฐานขอชีวิตจากพระองศ์ท่านก็อยู่รอดปลอดภัย อย่าง น่าอัศจรรย์ใจเป็นยิ่งนัก และมีอีกหลายรายที่โทรศัพย์เข้ามารายงานอิทธิคุณถึงบารมีอันยิ่งใหญ่ สำหรับขุนแผนน้ำผึ้งนี้เป็นพระที่ทำขึ้นจาก ว่าน เสน่ห์ล้วน ๆ ผสมกับผงเมตตา สีผึ้งยุคแรก ผสม น้ำผึ้งเสกของหลวงปู่นำใส่ขวดโหลแช่น้ำผึ้งปลุกเสกตลอดเดือน 12 ข่าวว่ามีอยู่คืน หนึ่ง พระจันทร์เต็มดวงท่านปลุกเสกจนผึ้งบินมารุมขุนแผนน้ำผึ้งเต็มไปหมด ซึ่งผิด วิสัยที่ผึ้งจะบินในตอนกลางคืนด้านหลังเป็น รูปพระพรหมเป็น ปริศนาธรรม ท่านบอกว่าคนเราจะมีเสน่ห์เป็นที่ชื่นชมของคนอื่นต้องทำได้อย่างพรหมคือ มี เมตตา กรุณา มุทิตา,อุเบกขา แก่ผู้อื่น ถ้าทำได้ อย่างนี้ไปไหนมาไหนมีแต่คนรักคนชอบแน่นอน
ย้ายข้อมูลไปไว้ที่ http://www.itti-patihan.com/ประวัติ-หลวงปู่ชื่น-วัดตาอี-จ.บุรีรัมย์.html
EditRegion4
|
|
||||||||||||||||||||||||
EditRegion6 | EditRegion7 | EditRegion8 |