พระครูบวรกิจโกศล (หลวงพ่อตัด) วัดชายนา จ.เพชรบุรี รุ่น”มงคลบารมี ๗๗ “ปี ๒๕๕๑
เป็นที่สุดแห่งการสร้างวัตถุมงคลฉลองอายุ ๗๗ ปี ของหลวงพ่อตัด ซึ่งในการสร้างวัตถุมงคลรุ่น ”มงคลบารมี ๗๗“ นี้ ได้นำมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากสถานที่ต่างๆมากมาย เช่น ผงอิติปิโส ผงตรีนะสิงเห เกสรดอกไม้ที่หลวงพ่อบูชา จีวร,เกศาหลวงพ่อ ดินที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ผงว่าน๑๐๘ ไม้เทพทาโร ผงใบลานลงอักขระยันต์อายุกว่า ๑๐๐ปี เป็นต้น เหล็กน้ำพี้ เหล็กกล้าโบราณกล่าวขานมาหลายพันปีว่าเป็นคุณวิเศษและอณุภาพของเหล็กน้ำพี้จากตำราพิชัยสงครามได้กล่าวไว้ว่า เหล็กน้ำพี้เป็นสุดยอดแห่งโลหะ มหัศจรรย์ มีอาถรรพณ์เร้นลับและมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ทุกๆอณู อณุภาพของเหล็กน้ำพี้ มีอาถรรพณ์ล้ำล้างอาถรรพณ์ได้นานาประการ คงกระพันชาตรี ป้องกันภูตผีปีศาจ จิตวิญญาณและ คุณไสยลมเพลมพัด หรือมายาดำ เรียกเดรัจฉานวิชาก็สามารถป้องกันได้ แก้-กันโรคภัยไข้เจ็บ และคุ้มครองผู้นั้นให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่าง ๆ ผู้ใดที่มีเหล็กน้ำพี้ติดตัว นอกจากจะช่วยป้องกันสิ่งเลวร้ายได้ตลอดกาลแล้ว ยังเป็นวัตถุมงคลเมตตามหานิยมอยู่ยงคงกระพันชาตรี เหล็กน้ำพี้ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีหลักฐานอ้างอิงจาก เอกสาประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุ บรรพบุรุษไทยในอดีตนำแร่เหล็กน้ำพี้ มาใช้ประโยชน์ในหลายด้านที่สำคัญ ดังนี้
- พระแสงของ้าวที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงใช้ทำยุทธหัตถีรบกระทั่งมีชัยชนะเหนือพม่าข้าศึกนั้นเป็นพระแสงของ้าวที่ทำขึ้นมาจากเหล็กน้ำพี้
- สมเด็จพระนารายมหาราช มีดาบล้างอาถรรพณ์ซึ่งเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ขุนหลวงสรศักดิ์นำมาปราบศัตรูนั้น ทำขึ้นมาจากเหล็กน้ำพี้
- สมเด็จพระพันวษาหรือพระรามาธิบดีที่ 2 ในสมัยของพระองค์มีขุนศึกชาวเมืองสุพรรณบุรีชื่อ ขุนแผน ใช้ดาบฟ้าฟื้นเป็นอาวุธและเมื่อรบทัพจับศึกปราบศัตรูราบคาบแล้วขุนแผนได้ถวายดาบเล่มนั้นเป็นสมบัติของพระพันวษา ดาบนี้ทำขึ้นมาจากเหล็กน้ำพี้และปัจจุบันยังเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
- สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สมัยที่พระองค์ทำศึกสงครามมีทหารเอกคู่ใจคือ พระยาพิชัย ขุนศึกกล้าชาวอุตรดิตถ์”ดาบนันทถาวุธ” ซึ่งอยู่ในมือซ้ายของท่านเป็นดาบที่ทำจากเหล็กน้ำพี้ พระยาพิชัยมีดาบดีเป็นอาวุธจึงถวายดาบแด่ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ตนมีความเคารพ และจงรักภักดีไว้ใช้ด้วย ดาบที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงใช้ทำขึ้นมาจากเหล็กน้ำพี้
- พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติหลวงจรุงราษฎร์เจริญ (สุข) นายอำเภอตรอน ในสมัยนั้นได้นำเหล็กน้ำพี้มอบให้ พระยาวิเศษฤาไชยข้าหลวงประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ นำพระแสงดาบขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเป็นพระแสงศาสตราวุธ มาจนทุกวันนี้
วัตถุมงคลรุ่น ”มงคลบารมี ๗๗ “นี้ได้นำมวลสารศักดิ์สิทธิ์เหล็กน้ำพี้ผสมอยู่ทั้งสิ้น
๑. เศียรพระลักษณ์ นะหน้าทอง วัตถุมงคลอันเป็นที่สุดแห่งยุค เมตตามหานิยมสุดยอดแห่งมนต์ตรามหาเสน่ห์ บันดาลโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา ติดต่อเจราจาค้าขายร่ำรวย สร้างโดยการรวมแผ่นยันต์ตำรับโบราณ ยันต์นะหน้าทอง ยันต์หัวใจเศรษฐี ยันต์เพชรพญาธรณ์ ยันต์มนต์จินดามณี ยันต์ตรีนะสิงเห หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันหลังอุดผงพญาเหล็กน้ำพี้ ผงพรายกุมาร ผงตรีนะสิงเห น้ำมันกฤษณา ว่านสาวหลง ว่านดอกทอง ว่านจูงนาง ฝั่งตะกรุด ยันต์นะหน้าทอง ยันต์หัวใจเศรษฐี ยันต์เพชรพญาธรณ ประดับพลอย ๙ ยอด
๒. พระผงเนื้อว่านหลวงพ่อตัด รวมความสุดยอดมหาว่าน วัตถุมงคลที่สร้างจากมวลสารศักดิ์สิทธิ์ผงพญาเหล็กน้ำพี้ ผงอิติปิโส ผงตรีนะสิงเห เกสรดอกไม้ที่หลวงพ่อบูชา จีวร,เกศาหลวงพ่อ ดินที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ผงว่าน๑๐๘ ไม้เทพทาโร ผงใบลาน ผงยาจินดามณีตำรับ หลวงพ่อปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ฝั่งตะกรุดมหาอุดอันเลื่องลือตำหรับโบราณของหลวงพ่อตัดแห่งวัดชายนา
๓. รูปหล่อหลวงพ่อตัดนั่งพยัคฆ์คู่ ขนาดห้อยคอเนื้อเมฆพัดมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวอุดผงพญาเหล็กน้ำพี้ฝั่งตะกรุดมหาอุดใต้ฐาน จึงเป็นวัตถุมงคลในทาง แคล้วคลาดคงกะพันชาตรี โชคลาภ มหาอำนาจมหาบารมี อีกทั้งยังเป็นรูปเหมือนรุ่นแรกที่สร้างจากโลหะเมฆพัด ตะปูสังขวานร เหล็กยอดเจดีย์
๔. ล็อกเกตหลวงพ่อตัด ล็อกเกตซึ่งกล่าวได้ว่างดงามด้วยพุทธศิลป์และพุทธอักขระยันต์เป็นที่สุดหลังอุดผงพญาเหล็กน้ำพี้ ผงว่าน๑๐๘ ฝั่งตะกรุด ยันต์นะหน้าทอง ยันต์หัวใจเศรษฐี ยันต์เพชรพญาธรณ
๕. เหรียญยันต์บัว ๘ ทิศและหลวงพ่อตัดเหรียญเม็ดแตง เป็นรุ่นแรกในการสร้างเหรียญขนาดเม็ดแตงของหลวงพ่อตัด หลวมด้วยยันต์ ๑๐๘ ชนิดประกอบด้วย ยันต์เมตตา มหาอุด แคล้วคลาด จึงเป็นเม็ดแตงเล็กๆแต่คงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ ดังคำโบราณกล่าวไว้ว่า ถึงจิ๋วแต่แจ๋ว ดั่งเม็ดแตงของ หลวงปู่ทอดวัดช้างให้นั้นแล
***วัตถุมงคลรุ่น”มงคลบารมี ๗๗ “ทั้งหมดนี้ หลวงพ่อตัด ตั้งใจอธิฐานจิต ประจุพุทธาคมปลุกเสก เดี่ยว ให้เป็นสุดยอด มหาวัตถุมงคลแห่งปี ๒๕๕๑***
เปิดรับจอง 25 ม.ค.-5 พ.ค. 2551 รับวัตถุมงคล 31 พ.ค. 2551